Self Plasma Therapy Program

สาขาที่ให้บริการ

Self Plasma Therapy Program คือการฟื้นฟู รักษาผิวด้วย Growth factors ที่สกัดจากเกล็ดเลือดของเราเอง Growth factors เป็นสารที่ช่วยให้เกิดการกระตุ้นการแบ่งเซลล์ ซ่อมแซมเนื้อเยื่อ สร้างคอลลาเจน อิลาสติน ในส่วนของใบหน้า จะช่วยลดริ้วรอยแห่งวัย รักษาแผลเป็น หลุมสิว ในส่วนของเส้นผม ช่วยในการรักษาผมบางจากพันธุกรรม และผมร่วงเป็นหย่อมที่ไม่ได้ผลจากการรักษาโดยวิธีการอื่นๆ

Self Plasma Therapy โดย Regen lab ที่พรเกษมคลินิก

Self Plasma Therapy เป็นการรักษาที่มีการทำมานาน แต่ยังมีข้อถกเถียงในขบวนการปั่นเลือด และการแยกเกล็ดเลือดเพื่อให้ได้ผลการรักษาที่ดีที่สุด มาตรฐานในแต่ละที่ที่ทำจึงแตกต่างกันไป รวมถึงราคาของการรักษา นโยบายหลักของพรเกษมคลินิก คือ การคำนึงถึงประสิทธิภาพ และความปลอดภัยของการรักษาเป็นหลัก ดังนั้น ทางคลินิกจึงเลือกใช้อุปกรณ์ของ RegenLab จากสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นประเทศที่มีเทคโนโลยีในการทำเซลล์บำบัดอันดับต้นๆ ของโลก และผ่านการรับรองโดยองค์การอาหารและยาประเทศไทย

โปรแกรม Self Plasma Therapy ของ Regenlab ประกอบด้วย อุปกรณ์เจาะเลือด หลอดเก็บเลือด ที่เป็นระบบปิด ไม่มีการเปิดสัมผัสกับภายนอก จึงมั่นใจถึงความสะอาด ปราศจากการปนเปื้อนจากภายนอก ร่วมกับเครื่องมือปั่นเตรียมเกล็ดเลือดที่มีมาตรฐาน หลอดเก็บเลือดที่เตรียมเฉพาะสำหรับการแยกเกล็ดเลือดที่มีจำนวนพอเหมาะในการรักษา ดังนั้น เราจึงมั่นใจในคุณภาพ ผลลัพธ์ที่ได้ในการรักษาโดยแพทย์ที่ผ่านการอบรมมา

การปฏิบัติตัวหลังจากรักษาด้วยโปรแกรม Self Plasma Therapy

  • เลี่ยงการออกแดด 24 ชั่วโมง
  • งดล้างหน้าหลังทำการรักษา และสามารถแต่งหน้าหลังจากที่รักษาไปแล้ว 24 ชั่วโมง
  • หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมง เนื่องจากอาจทำให้เกิดอาการช้ำและบวมรุนแรงมากขึ้น
  • เลี่ยงการทานอาหารเสริม เช่น วิตามินรวม, น้ำมันปลา และวิตามิน B, E เป็นเวลา 1 - 2 สัปดาห์ เนื่องจากเป็นตัวยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด

 

ผู้ที่ควรหลีกเลี่ยงหรืออยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ก่อนทำการรักษาด้วยโปรแกรม Self Plasma Therapy

1. ผู้ที่ทานยาใน 3 กลุ่มดังนี้ ควรงดรับประทานก่อนการรักษา 7 วัน
- NSAIDs (ยาต้านอักเสบชนิดไม่ใช้สเตียรอยด์)
- Retinol (วิตามินเอ)
- Alpha Hydroxyl Acid (กรด AHA)

2. ผู้ที่มีอาการ Autoimmune Diseases

3. ผู้ที่อยู่ในระหว่างการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร

4. ผู้ที่เป็นมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งกระดูกหรือมะเร็งหลอดเลือด

5. ผู้ที่มีฮีโมโกบินต่ำกว่า 10 กรัม/ เดซิลิตร หรือมีภาวะเกล็ดเลือดต่ำรุนแรง